มะเขือเทศ
สรรพคุณและประโยชน์ของมะเขือเทศ 28 ข้อ !
มะเขือเทศ หรือ Tomato ส่วนชื่อวิทยาศาสตร์มะเขือเทศคือ
Lycopersicon Esculentum Mill มะเขือเทศคือผักหรือผลไม้ ?
คำตอบก็คือ “มะเขือเทศคือผลไม้” ครับตามคำนิยามของหลักทางพฤกษศาสตร์
เพราะผลไม้คือส่วนของรังไข่ที่เจริญเติบโตเต็มที่ของพืชดอก ส่วน ผัก
คือพืชที่กินได้ของพื่ชล้มลุก ไม่ว่าจะเป็น ราก ใบ ก้าน หัว หน่อ ดอก
ซึ่งโดยปกติแล้วคนส่วนมากมักเข้าใจผิดว่ามะเขือเทศคือผักเพราะนำไปใช้ประกอบอาหารกันเป็นส่วนใหญ่
และมักคิดว่าผลไม้คือสิ่งที่ให้ความหวานนั่นเอง
โดยมะเขือเทศที่นิยมรับประทานมากคือ มะเขือเทศสีดา มะเขือเทศราชินี
และคุณรู้หรือไม้มะเขือเทศนั้นจัดว่าเป็นผลไม้ที่คนทั่วโลกนิยมรับประทานกันมากที่สุด
โดยนิยมรับประทานกันมากกว่าผลไม้ยอดนิยมอันดับ 2 อย่าง กล้วย มากถึง 16 ล้านตันต่อปี ส่วนผลไม้อันดับ 3 คือ แอปเปิ้ล และ ส้ม ตามลำดับ
มะเขือเทศ นอกจากจะเป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากที่สุดในโลกแล้ว
ประโยชน์ของมะเขือเทศยังมีอยู่มากมาย เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอยู่หลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี1 วิตามินบี2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส และ ธาตุเหล็ก โดยมะเขือเทศขนาดปานกลางนั้นจะมีปริมาณของวิตามินซีครึ่งหนึ่งของส้มโอทั้งลูก และมะเขือเทศหนึ่งผลมีปริมาณวิตามินเอที่ร่างกายต้องการจำนวน 1 ใน 3 ของวิตามินเอทีร่างกายต้องการต่อวันเลยทีเดียว!! และยังมีสารจำพวก ไลโคพีน
(Lycopene) แคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีน และ กรดอะมิโน เป็นต้น
และมะเขือเทศยังจัดว่าเป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณเป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย เช่น
ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด ขับปัสสาวะ รักษาความดัน เป็นต้น
โดยการน้ำมะเขือเทศที่เราคั้นเองสดๆ
จะดีกว่าน้ำมะเขือเทศขวดหรือกล่อง และไม่ควรเลือกรับประทานมะเขือเทศดิบ
เพราะอาจจะเป็นผลเสียต่อร่างกายมากกว่าจะได้รับประโยชน์
และการกินมะเขือเทศในปริมาณมากก็ไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด
มีงานวิจัยมะเขือเทศออกมาว่าการรับประทานมะเขือเทศให้ได้ 10 ครั้งต่อสัปดาห์ถือว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากเพราะจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อย่างมาก
และดีต่อสุขภาพผิวอย่างเห็นได้ชัดเจน
คุณค่าทางโภชนาการของมะเขือเทศสีแดงสด
ต่อ 100 กรัม
·
พลังงาน
18 กิโลแคลอรี
·
คาร์โบไฮเดรต
3.9 กรัม
·
เส้นใย
1.2 กรัม
·
ไขมัน
0.2 กรัม
·
วิตามินเอ
42 ไมโครกรัม 5%
·
เบต้าแคโรทีน
449 ไมโครกรัม 4%
·
ลูทีน
และ ซีแซนทีน 123 ไมโครกรัม
·
วิตามินบี1 0.037 มิลลิกรัม 3%
·
วิตามินซี
14 มิลลิกรัม 17%
·
วิตามินเค
7.9 ไมโครกรัม 8%
·
ธาตุฟอสฟอรัส
24 มิลลิกรัม 3%
·
ไลโคปีน
2,573 ไมโครกรัม
ประโยชน์ของมะเขือเทศ
1.
ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นสดใส
ไม่แห้งกร้าน
3.
น้ำมะเขือเทศช่วยเพิ่มความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
4.
ช่วยเสริมคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง
5.
มีวิตามินเอซึ่งมีส่วนชวยบำรุงสายตา
6.
มะเขือเทศ มีบีตาแคโรทีน และฟอสฟอรัสในปริมาณมาก
7.
มะเขือเทศช่วยในการรักษาสิว
ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบางๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
8.
ช่วยทำให้ผิวหน้าเต่งตึงสดใส
ด้วยการนำน้ำมะเขือเทศมาพอกผิวหน้า หรือฝานบางๆแล้วนำมาแปะหน้าก็ได้
9.
มะเขือเทศใช้นำมาทำเป็นน้ำผลไม้
โดยน้ำผลไม้ที่ขึ้นชื่อก็คือ น้ํามะเขือเทศดอยคํา
10.
เป็นที่นิยมนำมาทำเป็นอาหารได้หลายเมนู
เช่น ข้าวผัด ซุป ยำต่างๆ เป็นต้น
11.
ช่วยใหร่างกายสามารถต่อสู้กับโรคหอบหืดได้มากถึง
45%
12.
ช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม
หริออัลไซเมอร์
13.
ช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด
เลือดออกตามไรฟัน
14.
ช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด
15.
มะเขือเทศมีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะ
16.
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
17.
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
18.
ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดภาวะเส้นเลือดตีบ
การเกิดโรคหัวใจวาย สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ
19.
ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
20.
ช่วยในระบบย่อยในกระเพาะอาหารและช่วยในการขับถ่ายอุจจาระได้สะดวก
21.
ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา
หรือเชื้อราที่ปาก
22.
ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดโรคมะเร็งลำไส้
23.
ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในเพศชายได้ถึง
45% หากรับประทานมะเขือเทศเป็นประจำ
24.
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งรังไข่
ในเพศหญิง
25.
ซอสมะเขือเทศหมักผม
ด้วยการใช้มะเขือเทศหมักผมจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนไปของสีผม
อันเนื่องมาจากการว่ายในน้ำในสระที่มีคลอรีน
26.
ซอสมะเขือเทศนำมาใช้ขัดเครื่องประดับเงินชิ้นโปรดของคุณให้เงางามเหมือนเดิมได้
ด้วยนำซอสมะเขือเทศมาถูแล้วล้างน้ำออก
27.
ซอสมะเขือเทศช่วยในการดับกลิ่นคาว
เศษอาหาร กลิ่นปลาสลิดได้เหมือนกันนะ เพียงแค่เปิดฝาซอสทิ้งไว้ 1 คืนเท่านั้น
28.
ซอสมะเขือเทศช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดหลังจากการหกล้ม
หรือถูดมีดบาดได้